วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เป็นวันที่รอคอยมานาน Toni Bucheli เพื่อนรักชาวสวิสคนหนึ่ง ได้สัญญาว่าจะเชิญไปเที่ยวดูสำนักงานใหญ่ ของสมาคมฟุตบอลโลก FIFA ที่เมืองซูริค ในระหว่างที่รับประทานอาหารร่วมกัน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งของเมืองลูเซิร์น คือ Hausermatte ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งทะเลสาบชื่อเดียวกัน แต่เขาขอให้การแข่งขันฟุตบอลยุโรป ๒๐๐๘ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียผ่านพ้นไปก่อน
Toni เป็นอดีตกรรมการตัดสินฟุตบอลของ FIFA เขามีชื่อเสียงมากในประเทศสวิส ไม่มีใครที่เป็นแฟนบอลแล้วจะไม่รู้จักเขา เราพบกันครั้งแรกเมื่อหลายปีที่แล้วในงานเลี้ยงค็อกเทลที่ประเทศคูเวต เขาไปตัดสินฟุตบอลที่นั่น ไม่ได้นึกฝันหรือล่วงรู้มาก่อนเลยว่า วันหนึ่งชีวิตของเราจะบังเอิญโคจรมาพบกันอีกที่เมืองลูเซิร์น ภรรยาของโทนี่ Ella เล่นเทนนิสกับหญิงไทยคนนี้ที่สโมสรเทนนิสในเมืองลูเซิร์น โดยไม่รู้ว่าเขามีความสัมพันธ์เช่นไรกับโทนี่ จนกระทั่งถึงงานวันเลี้ยง ที่สโมสรจัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้สามีภรรยาของนักเทนนิสได้รู้จักกัน จึงได้รู้ว่าใครเป็นใคร แต่นั่นก็นานหลายปีมาแล้วเหมือนกัน แต่ความสัมพันธ์ของเรา ยังคงแนบแน่นไม่เปลี่ยนแปลงด้วยกาลเวลา จนกระทั่ง ทั้งเขาและเราได้เปลี่ยนจากการเล่นเทนนิสมาเล่นกอลฟ์ ซึ่งเราก็เล่นด้วยกันในบางครั้ง เมื่อมีโอกาส เพราะเขาเป็นสมาชิกของสโมสรกอลฟ์แห่งเมืองลูเซิร์น จึงเชิญเราไปเป็นแขกนานๆครั้งแต่ก็ติดต่อรับประทานอาหารด้วยกันเป็นครั้งคราว
สมาคมฟุตบอลโลก FIFA มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Zurich มีประธานชื่อ นาย Joseph S. Blatter ใครๆในสวิสเรียกเขาง่ายๆว่า Seppi Blatter โทนี่รู้จักกับเขาดี แต่วันที่เราไปเยี่ยมชมสมาคม นาย Blatter ยังอยู่ที่ปักกิ่ง เพราะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค จึงไม่มีโอกาสได้พบเขาเป็นส่วนตัว
เราต้องทึ่งในความใหญ่โตโอฬารและความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ สมาคมมีถนนของตนเองเรียกว่า FIFAstrasse ตอนที่ไปถึง มีนักท่องเที่ยวสี่คนกำลังถ่ายรูปอยู่ข้างนอกสถานที่ ที่กระทบตาเป็นสิ่งแรกคือป้ายมโหฬารที่ติดอยู่ข้างนอก FIFA ตั้งอยู่บนเนื้อที่ ๔๔๐๐๐ ตารางเมตร ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมดเป็นเงิน สองร้อยสี่สิบ ล้าน ฟรังค์สวิส (คูณด้วยสามสิบสองจะได้ค่าเป็นเงินบาทไทย) สถาปนิกเป็นผู้หญิงชาวสวิสชื่อว่า Tilla Theus ถือกันว่าสมาคมฟีฟ่าเป็นเสมือน “บ้าน” ของนักฟุตบอลทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสมาคมที่เป็นสมาชิก ๒๐๘ สมาคม และอีกสองร้อยเจ็ดสิบล้านคนเป็นนักเตะ โค้ช กรรมการและผู้ร่วมงานทั่วโลก
ต้องขอเรียนว่าการไปเยี่ยมชม FIFA นั้นใครๆก็ทำได้ แต่ต้องขอนุญาตก่อน หากแต่ว่าจะชมได้เพียงสถานที่ภายนอก จนถึงเขต reception area เท่านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมข้างใน นอกจากจะเป็นแขกพิเศษจริงๆ เราจึงรู้สึกปลื้มและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเชิญในครั้งนี้
เพียงแต่เห็นภายนอกก็รู้สึกทึ่งเสียแล้ว ตึกตั้งอยู่ใจกลางสวนมหึมา มีต้นไม้ปลูกร่มครึ้ม ตั้งอยู่ทางตอนใต้และทางด้านตะวันตก สลับด้วยสนามหญ้าและที่โล่ง ทางเดินตัดคดเคี้ยวไปมา ผ่านต้นไม้หลายชนิดที่นำมาปลูกจากส่วนต่างๆของโลกจนนับไม่ถ้วน เป็นต้นไม้ พุ่มไม้ที่ผสมผสานและกลมกลืนไปกับสถานที่ เพราะต้นไม้เหล่านี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพันที่สมาคม FIFA มี ให้แก่สมาชิกของสมาคมทั่วโลก FIFA เป็นตัวแทนสำหรับออกกฎ ความเรียบร้อย และจัดระบบการบริหารในด้านการกีฬาฟุตบอล ซึ่งอยู่ภายใต้กฏกติกาอันเดียวกันและครอบคลุมไปทั่วโลก โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ วรรณะและสีผิว
ภาย ในบริเวณอันกว้างใหญ่ มีสวนที่เป็นสัญลักษณ์เฉพาะของทวีป แอฟริกาซึ่งมีหอคอยสูงสร้างด้วยไม้ บนยอดมีลูกฟุตบอลกลมใหญ่และโปร่งตั้งอยู่ ใต้ลูกฟุตบอลเป็นนักฟุตบอลกอดคอกัน ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ แบบ ปิรามิด จากน้อยลงมาหามาก ดอกไม้สีสวยบานสะพรั่งกลุ่มหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทวีปอาเซีย ต้นไม้อีกกลุ่มหนึ่งขึ้นอยู่หนาแน่นโผล่ขึ้นมาเหนือพุ่มไม้ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศในกลุ่ม Oceania ซึ่งหมายถึงกลุ่มของเกาะต่างๆในมหาสมุทรแปซิฟิค รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ส่วนพืชพรรณไม้ที่แข็งแรงและทนทานขึ้นอยู่ในป่าบนภูเขาเป็นของทวีปอเมริกาใต้ ส่วนต้นไม้ที่เล็กลงมาหน่อยแสดงถึงสัญลักษณ์ของทวีปยุโรป ส่วนทวีปอเมริกาเหนือนั้นเล่า มี ปฏิมากรรม แปดชิ้นตั้งเด่นเหมือนต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ โผล่พ้นพรมสีเขียว ของต้นหญ้ามอสและต้นเฟิร์น เป็นสัญลักษณ์ของป่าที่ปกคลุมไปด้วยหมอกจางๆของทวีปอเมริกาเหนือ ปาร์ค แห่งนี้จึงเป็นที่รวมของพืชพรรณไม้ต่างๆของหกทวีปของโลกที่มีส่วนร่วมในกีฬาฟุตบอล เมื่อผ่านเข้ามาในบริเวณ จะรู้สึกถึงบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ร่มรื่นและอยากนั่งพัก
มีบันไดหินเหยียดยาวทอดขึ้นไปเป็นขั้นๆ แต่ละขั้นมีชื่อของประเทศในครอบครัวของสมาคม FIFA สลักอยู่ ตามลำดับตัวอักษร ไม่ได้นับว่ามีกี่ประเทศ เพราะเป็นไปไม่ได้ แต่คาดว่าคงจะครบถึง ๒๐๘ สมาคมของประเทศต่างๆที่อยู่ในเครือของฟีฟ่า มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
ตึกที่อยู่ติดกับสำนักงานเป็น “Torture Chamber” คือเป็นที่สำหรับอบไอน้ำนวด ออกกำลังกาย มีสระว่ายน้ำ ข้างหน้าตึกเป็นสนามฟุตบอลที่มีหญ้าปลอมสีเขียว สำหรับฝึกซ้อม ความจริงที่ประตูทางเข้าด้านหน้าก็มีสนามฟุตบอลสำหรับให้ครอบครัวและพนักงานได้ฝึกซ้อมและเล่นฟุตบอลกัน มีกลุ่มธงของชาติต่างๆปลิวสไว ช่างเป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกถึงความสามัคคีกลมเกลียวของสมาคมเสียนี่กระไร
เนื่องด้วยสมาคม FIFA ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความประหยัดในพลังงานเหนือสิ่งอื่นใด ตึกที่ทำการจึงสร้างอย่างกลมกลืนกับบริเวณภายนอกได้อย่างแนบเนียน สมาคมเอาใจใส่แม้แต่ในเรื่องระบบการให้ความร้อนและความเย็น ซึ่งให้ความสบายแต่ก็ประหยัดพลังงานในคราวเดียวกัน
ภายในบริเวณต้อนรับ หรือ reception area เป็นห้องโถงใหญ่สง่างามและอ่อนช้อย ฝาผนังที่เทลาดประดับด้วยชิ้นประกอบที่ทำด้วยอะลูมิเนียม ให้ความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาฟุตบอลที่ต้องการความยืดหยุ่นและสมดุล อีกทั้งยังปกป้องจากแสงที่แผดร้อนของพระอาทิตย์ด้วยอีกต่างหาก ห้องมีหลังคาสูง ช่วยไม่ให้อึดอัดหากมีคนมาก แต่ก็จะไม่ดูโหรงเหรงเกินไปหากมีคนน้อย ทว่าจะรู้สึกอบอุ่นจากห้องโถงที่มีการตกแต่งแบบไม่เย็นชา ผู้มาเยือนจะรู้สึกประทับใจว่าได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี มีดอกไม้สีเหลืองและสีขาวช่อใหญ่ยาวประดับอยู่ มีเจ้าหน้าที่เปลี่ยนดอกไม้ทุกๆสองสัปดาห์ ผู้มาต้อนรับเราเป็นหญิงสาวชื่อ Laura Zicca หลังจากที่ได้แนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้ว เธอก็พาขึ้นลิฟท์ไปชั้นบน
แม้แต่ลิฟท์ที่ใช้ก็เป็นลิฟท์ แบบพิเศษสร้างจากมือ หรือ Tailor-made ของบริษัท Emch ของรัฐเบิร์น ในประเทศสวิส ที่ เชี่ยวชาญทางนี้โดยเฉพาะ เป็นลิฟท์ ที่ทำด้วยแก้วกระจกใสโดยรอบมีลักษณะเหมือนช่อไฟ ที่ทำจากคริสตัล Chandelier เวลาลิฟท์ขึ้นหรือลงจะเป็นเหมือนดวงไฟแกว่งขึ้นและแกว่งลง สวยจับตา
ตึกมีด้วยกันทั้งหมดแปดชั้น ห้าชั้นอยู่ใต้ดิน อีกสามชั้นอยู่เหนือดิน พนักงานสามร้อยคนมีออฟฟิศอยู่เหนือดิน ส่วนพื้นที่ใต้ดินเป็นลานจอดรถ ห้องพบปะ สังสรรค์ ห้องครัว ห้องเก็บสัมภาระ ฯลฯ แต่ทุกชั้นก็สร้างแบบให้ความสะดวกสบายแก่ทุกคน
พอย่างออกจากลิฟท์เห็นพื้นที่ปูด้วยหินสีฟ้าเฉดต่างๆ เรียกว่า lapis lazuli จากประเทศบราซิล เช่นเดียวกับฝาผนังซึ่งเป็นหิน แกรนิทจากประเทศบราซิล ถ้าเป็นฝาผนังที่ทำด้วยไม้ก็จะเป็นไม้ วอลนัท จากสหรัฐฯ แลดูโก้และกลมกลืนไปกับ แสงสว่างของดวงไฟที่ส่องไปตามระเบียง ที่ทอดยาวไปจนจดห้องนั่งเล่น ทุกห้อง ที่เปิดให้เห็นลานสวนภายนอกโดยไม่มีสิ่งใดมาบังสายตาเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระเบียงแบบทอดตามยาวหรือทอดตามขวาง แสงไฟอันนุ่มนวลส่องไปทั่วทุกแห่งตั้งแต่พื้น เพดาน ไปจนถึงใต้บันได
ห้องประชุมหรือ Conference Room สำหรับกรรมการบริหารทำให้ต้องอ้าปากค้างด้วยความตื่นตาตื่นใจ สิ่งแรกที่เห็นคือช่อไฟ chandelier จาก Swarovski เป็นช่อไฟดวงใหญ่เหนือหัว สร้างเป็นรูปกลมที่ค่อนข้างรีของสนามฟุตบอล football stadium พื้นปูด้วยหินสีฟ้า lapis ที่ฝังฐานหินของสมาคมไว้ภายใต้พร้อมกับลูกเต๋าคอนกรีตที่มีลูกบอลลูกใหญ่กว่าธรรมดาฝังไว้ด้วย มีแคบซูลบรรจุดินจากทุกประเทศที่อยู่ในเครือสมาคมพร้อมทั้งของที่ระลึกสิ่งละอันพันละน้อยจากทั่วโลกฝังไว้เช่นกัน
โต๊ะสี่เหลี่ยมใหญ่มีเก้าอี้ล้อมรอบ ประธานสมาคมนั่งอยู่ตรงกลาง ข้างหน้ามีลูกบอลแต้มสีแดงวางไว้ ข้างหลังเป็นป้ายเขียนด้วยอักษรตัวใหญ่ว่า FIFA ผู้เขียนได้ถ่ายรูปเกาะเก้าอี้ของประธาน แต่บังเอิญรูปดำออกมาไม่ชัด เลยไม่ได้มีโอกาสมาอวดกัน
ห้องกระจกที่มองลงมายังห้องประชุมเป็นห้องนักแปล ตามธรรมดาภาษาที่ใช้มีอยู่สี่ภาษาคือ เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศสและสเปน ถ้าหากมีภาษาอื่นๆอีก ก็มีห้องที่จัดไว้เพื่อการนี้เป็นพิเศษ ในห้องมีเครื่องมือทันสมัยครบถ้วน เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้เข้าประชุม และผู้ที่ถ่ายทอดและแปล
ถัดจากห้องประชุมไปเป็นห้องที่ถูกใจมากที่สุด เพราะเป็นห้องสำหรับทำสมาธิ เรียกว่า Meditation Room สร้างด้วยหิน onyx ที่สว่าง ไสวเป็นเงาวับ ที่ค่อยๆกว้างขึ้นจนถึงเพดาน ทั้งพื้นและฝาผนังสร้างจากหิน onyx ที่มาจากประเทศอินเดียทั้งสิ้น
เหนือประตูใต้ขอบมีลูกศรยาวชี้ไปทางทิศที่เมกกะแห่ง ประเทศซาอุดอาเรเบีย ตั้งอยู่ เป็นห้องที่ใช้สำหรับทำสมาธิ สร้างความสงบสำหรับทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาหาความสงบในห้องนี้ได้ มีพรมสีแดงพับวางอยู่สองสามผืนบนม้าหิน คงจะไว้สำหรับการนั่งสวดภาวนา หรือสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ไว้นั่งคุกเข่าสวดมนต์ตามกฎของศาสนาของเขาก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นห้องใดภายในตึกนี้ ไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้ลักษณะของแต่ละห้องดูโก้หรูและเด่นเลิศ
ถัดไปเป็นห้อง Penalty Meeting Room และ Fair Play ที่บรรจุคนได้ถึงสิบแปดคนและมีห้อง Bench Meeting Room
Auditorium เป็นห้องใหญ่ มีเก้าอี้ตั้งเป็นแถวเป็นชั้นๆ แบบห้องนั่งดูหนัง มีโพเดียมติดไมโครโฟนพร้อม สำหรับทำปาฐกถาหรือให้สัมภาษณ์ ข้างหลังเป็นตัวอักษรใหญ่เขียนว่า FIFA ซึ่งมี ม็อตโต้ว่า For the Game, For the World มีห้องเฉพาะสำหรับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ห้องแปล เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ทั้งหมด ทำมาจากประเทศอิตาลี
ต่อคำถามที่ว่าสมาคมจะให้ห้องนี้เช่าไหมหากมีบริษัทใหญ่ติดต่อมาเพื่อทำกิจการรม คำตอบก็คือให้ไม่ได้ เพราะถ้าให้บริษัทหนึ่งเช่า ก็ต้องให้บริษัทอื่นเช่าได้ด้วย เช่นเดียวกับที่อนุญาตให้แขกที่มาเยี่ยมเข้าได้แต่เพียงบริเวณรอบนอกและบริเวณ reception area เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของสถานที่ประการหนึ่งและไม่ต้องการให้สมาคมกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนภายนอก สมาคมจะให้ห้อง Auditorium เช่าเป็นพิเศษเฉพาะสปอนเซอร์รายใหญ่จริงๆเท่านั้นเช่น ธนาคาร Credit Suisse เป็นต้น เพราะสมาคมซื้อที่ดินมาจากธนาคารแห่งนี้
อีกห้องหนึ่งมีลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี ๑๙๗๐ ถึง ปี ๒๐๐๖ ตั้งโชว์ไว้ และอย่างที่รู้ๆกันปี ๒๐๑๐ จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศแอฟริกา บนโต๊ะตรงกลางห้องมีโทรศัพท์พิเศษ เพียงแต่กดปุ่มเท่านั้น ก็สามารถติดต่อกับสมาชิกของสมาคมได้ทั่วโลก
สมาคมฟุตบอลโลก FIFA ตั้งขึ้นเมื่อปี ๑๙๐๔ ที่กรุงปารีส ปัจจุบันมีอายุได้ถึง ๑๐๔ ปีแล้ว มีรูปถ่ายของประธานทุกคน ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบันติดไว้บนฝาผนัง ในห้องแกเลอรี่ที่อยู่ใต้ดินชั้นที่หนึ่ง ถ้วยรางวัลฟุตบอลโลกวางอยู่บนโต๊ะสูง ไม่ใช่ถ้วยจริงแต่เป็นถ้วยจำลองวางโชว์ไว้เท่านั้น ส่วนตึกของสมาคม FIFA แห่งนี้ เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๐๐๗ ใช้เวลาก่อสร้างสามปี นับตั้งแต่วันที่วางฐาน Foundation Stone ซึ่งเป็นวันครบรอบร้อยปีของการก่อตั้งสมาคมพอดี
แสนจะประทับใจกับสถานที่ที่โก้หรู โอ่อ่า และการต้อนรับที่เป็นเลิศของเจ้าหน้าที่ ทำให้รู้สึกรักกีฬาฟุตบอลขึ้นอีกอักโข ภูมิใจที่สมาคม FIFA ตั้งอยู่ในประเทศของผู้เขียน แม้ว่าจะไม่ใช่ชาวสวิสโดยกำเนิด แต่การได้ถือหนังสือเดินทางของประเทศนี้ มากว่าสามสิบแปดปีแล้ว และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับชาวสวิส จึงอยากจะพูดอย่างเต็มปากว่า สวิสเป็นบ้านของตนเองอย่างแท้จริง
หลังการชมตึกของสมาคมแล้ว Toni และ Ella Bucheli สองสามีภรรยาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้เขียน ได้พาไปกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารของ FIFA วันนั้นอากาศดี ทางร้านจึงจัดโต๊ะให้บนเทอเรส ที่มองเห็นทะเลสาบซูริค ไปไกลจนถึงยอดเขาแอลป์ตอนกลางแห่งประเทศ สวิตเซอร์แลนต์ ซึ่งยังคงปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน รู้สึกได้ถึงบรรยากาศ ของฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังย่างเข้ามา เพราะมีหมอกบางๆ กระจายอยู่โดยทั่วเหนือเขา
พ่อครัวในร้านอาหารจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นาย Jacky Donatz ซึ่งเป็นพ่อครัวอายุ ๕๖ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี นอกจากชอบสูบซีการ์แล้ว เขายังเป็นแฟนฟุตบอลอย่างเหนียวแน่นอีกด้วย นาย Donatz รักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ เขาใช้เวลาเกือบทั้งหมดแสวงหาสิ่งที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของเครื่องปรุงซึ่งจะต้องสดและใหม่ เขาบอกว่าคนที่ทำอาหารดีและอร่อยนอกจากจะต้องมีพรสวรรค์อยู่ในสายเลือดแล้ว จะต้องรู้จักใช้ของสดๆที่หาได้ในพื้นที่อีกด้วย หากใช้ของที่มาจากแดนไกล
กว่าของจะมาถึงก็จะบอบช้ำกับการเดินทาง ไม่ว่าของนั้นจะดีเช่นไร ต่อคำถามที่ว่า การสูบซีการ์ จะไม่ทำให้รสชาติในการปรุงอาหารเสียไปหรือ? เขาบอกว่า เขาไม่ได้สูบมวนต่อมวน แต่สูบเพื่อผ่อนคลายและอยู่ในระหว่างหมู่เพื่อนฝูงเท่านั้น ซีการ์ที่เขาสูบเป็นซีการ์ชั้นเลิศที่มาจากประเทศคิวบา
เขาชนแก้วดื่มไวน์ขาวกับเราแก้วหนึ่ง แล้วก็จากไปทำหน้าที่ของเขาในครัว คุณผู้อ่านดูรูปของเขาที่ถ่ายกับ Toni เองก็แล้วกันนะคะ อยากจะบอกว่า วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขมากอีกวันหนึ่งและเป็นวันคุ้มค่า สมกับที่รอคอยมานาน แม้ว่าจะไม่ได้พบกับเจ้าของบ้านคือ นาย Joseph Blatter ก็ตาม เชิญคุณผู้อ่านดูรูป ประธานสมาคมของ FIFA กับโทนี่และเพื่อนๆอีกห้าหกคนในห้องรับแขกของสมาคม FIFA กันเอง